092-279-4292 , 081-556-2964 info@kt-electricalengineering.com

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าปัจจุบันเป็นการกำหนดของกฎหมายให้มีการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีการทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าในสถานประกอบกิจการ การตรวจสอบระบบไฟฟ้าปัจจุบันนี้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในบทความนี้จะสรุปถึงความสำคัญในเรื่องต่างๆที่จะต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อให้ผู้อ่านสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด

ทำไมถึงต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้า
ช่วยลดการเกิดระบบไฟฟ้าขัดข้องกระทันหัน (breakdown)
สร้างความมั่นใจให้กับพนักงานในองค์กรที่ปฏิบัติงานกับระบบไฟฟ้า
ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการ
ได้ทราบถึงข้อบกพร่องของอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้าก่อนที่จะเกิดการชำรุด หรือ อุบัติเหตุ
ลดการเกิดอุบัติเหตุและการเกิดอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ
การตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีผลกับประกันภัยอุบัติเหตุที่สถานประกอบการได้ทำเอาไว้ หากไม่ทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าตามกฎหมายหากเกิดเหตุไฟไหม้หรืออุบัติเหตุเสียหายบริษัทประกันภัยอาจจะมีสิทธิ์ที่จะไม่ชดเชยให้กับเราได้เช่นกัน
ช่วยให้เรารู้ถึงแนวโน้มอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆที่เสื่อมสภาพและสามารถวางแผนบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (PM) ประจำปีได้

ใครคือผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้า
ปัจจุบันคนที่จะทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าตามกฎหมายรับรองได้จะแบ่งเป็น 2 แบบ
ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าแบบบุคคล (มาตรา 9)
ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าแบบนิติบุคคล (มาตรา 11)
ทั้ง 2 แบบนั้นจะต้องได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนผู้ตรวจและรับรองความปลอดภัยระบบไฟฟ้า ตามมาตรา 9 และมาตรา 11 กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้ หากวิศวกร หรือ นิติบุคคลใดยังไม่มีเลขทะเบียนจะไม่สามารถตรวจสอบและให้บริการได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าหรือใช้บริการนิติบุคคลจากภายนอกควรทำการตรวจสอบเลขทะเบียนดังกล่าวให้แน่ใจเสียก่อน

เราควรเลือกนิติบุคคลที่ให้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจากอะไรบ้าง
ข้อควรพิจารณาแนะนำเลือกผู้รับเหมาหรือให้บริการตรวจระบบไฟฟ้า บริษัท หรือ โรงงานส่วนใหญ่จะเลือกใช้บริการแบบนิติบุคคลมาตรา 11 มากกว่าใช้บริการแบบบุคคล เนื่องจาก แบบนิติบุคคลหากเกิดปัญหาหลังบริการ หรือการรับประกันจะมีความพร้อมมากกว่าแบบบุคคล นิติบุคคลมีระบบมาตรฐานการรับรองคุณภาพการบริการ เช่น ISO 9001 สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนว่ามีมาตรฐานในทุกๆด้าน ซึ่งแบบบุคคลจะไม่มีการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9001 ในภาพรวมองค์กรส่วนใหญ่จึงเลือกใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้ากับนิติบุคคลที่ให้บริการมากกว่า แบบบุคคล นั้นเอง

ข้อพิจารณาใช้บริการแบบบุคคล ตรวจสอบระบบไฟฟ้า
ผู้รับเหมาแบบบุคคลมีโอกาสทิ้งงานมากกว่าแบบนิติบุคคล หรือไม่
การรับประกันหลังการขายที่มีข้อจำกัด เนื่องจากใช้งบส่วนตัว หรือไม่
เครื่องมือการทำงานมีใบสอบเทียบ ตาม ISO 17025 หรือไม่
ติดต่อยากหลังใช้บริการไปแล้ว หรือไม่
บุคคลกรในทีมมีจำกัด หรือไม่
มีการกำหนดวิธีการตรวจสอบ และ ขั้นตอนการทำงานตามมาตรฐาน (WI) หรือไม่ เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นข้อที่ผู้ว่าจ้างจะต้องพิจารณาก่อนใช้บริการเสมอเพื่อป้องกันปัญหาตามมาทีหลัง

ความถี่การตรวจสอบระบบไฟฟ้า
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าจะต้องทำการตรวจสอบทุก 1 ปี และจัดทําบันทึกผลการตรวจสอบ และรับรองระบบไฟฟ้าและบริภัณฑ์ไฟฟ้าตามกฎหมายกรมสวัสดิการฯ มีข้อแนะนำเกี่ยวกับความถี่ของการตรวจสอบนอกเหนือจากการตรวจสอบประจำปีแล้ว หากมีอุบัติเหตุร้ายแรงหรือการชำรุดของอุปกรณ์ที่สำคัญในระบบไฟฟ้าเราควรทำการตรวจสอบด้วยเช่นกันเพื่อให้แน่ใจว่ากลังจากการปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้วระบบไฟฟ้าของเราสามารถกลับมาพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยทั้งระบบ

  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้าตรวจอะไรบ้าง
  • ตู้เมน สวิตช์
  • จุดต่อสายและจุดต่อบัสบาร์
  • (Single Line Diagram) ของเมนสวิตช์
  • เครื่องป้องกันกระแสเกิน
  • สายดินของแผงสวิตช์
  • อุณหภูมิของอุปกรณ์
  • สภาพของจุดสายต่อ
  • การต่อลงดิน
  • การติดตั้งเครื่องปลดวงจรต้นทาง
  • ดรอปฟิวส์คัทเอ้าท์
  • สวิตช์ตัดตอน (Disconnecting Switch)
  • RMU
  • แรงสูง
  • สายอากาศ
  • สภาพเสา
  • การประกอบอุปกรณ์หัวเสา
  • สายยึดโยง (Guy Wire)
  • การติดตั้งล่อฟ้า
  • สภาพของจุดสายต่อ
  • การต่อลงดิน
  • แรงต่ำภายในอาคาร
  • วงจรเมน (Main Circuit)
  • สายเข้าเมนสวิตช์
  • รางเดินสายและรางเคเบิล
  • สภาพฉนวนสายไฟ
  • สภาพจุดต่อของสายไฟ
  • การป้องกันความร้อนเหนี่ยวนำ
  • อุณหภูมิของอุปกรณ์
  • หม้อแปลง
  • เครื่องป้องกันกระแสเกินด้านไฟเข้า
  • การต่อสายแรงต่ำและแรงสูงที่หม้อแปลง
  • การติดตั้งล่อฟ้าแรงสูง
  • การติดตั้งดรอปฟิวส์คัตเอาท์
  • การป้องกันการสัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้า
  • สายดินกับตัวถังหม้อแปลงและล่อฟ้า แรงสูง
  • สายดินของหม้อแปลง
  • สภาพหม้อแปลงภายนอก
  • อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีอะไรบ้าง
    อุปกรณ์ที่ใช้การตรวจสอบระบบไฟฟ้าจะต้องมีมาตรฐานรับรองทุกชิ้น อุปกรณ์หลักๆที่ใช้ในการตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีดังนี้
  • แคล้มป์มิเตอร์ ดิจิตอล
  • มัลติมิเตอร์ดิจิตอล
  • เครื่องเทอร์โมสแกน
  • เครื่องวัดกราวด์ ดิจิตอล
  • เครื่องวัดโวลต์
  • เครื่องวัดเต้ารับ
  • แคล้มป์มิเตอร์วัดความต้านทาน
    สรุป :  หากเราจ้างนิติบุคคลจากภายนอกมาตรวจสอบ ควรดูด้วยว่าเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการตรวจสอบระบบไฟฟ้านั้นมีการสอบเทียบ (Calibration) ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 หรือไม่ โดยส่วนใหญ่นิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่มีมาตรฐานจะมีเอกสารรับรองเครื่องมืออุปกรณ์เหล่านี้ หากเราจ้างบริษัทผู้รับเหมาราคาถูกอาจได้การตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่คุ้มค่ากับอุบัติเหตุต่างๆที่ตามมาอย่างแน่นอน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save